เปิดประเดิม!! เรื่องเล่าจากคนทำเว็บ

เรื่องเล่าของผมก็มีอยู่ว่า “เมื่อผมได้เป็นคนสอนเด็ก ป.6 ทำเว็บไซต์” ฟังไม่ผิดหรอกครับ เมื่อผมได้เป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ ภารกิจแรกที่ได้รับเลยในวันนั้นคือการสอนนักเรียน ป.4-6 ทำเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม Dreamweaver เพื่อไปแข่งขันทักษะของนักเรียนในจังหวัด เพื่อชิงการเป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งขันในระดับภาค ถามว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในสอนนักเรียนเพื่อไปแข่งขัน แต่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยที่ผ่านมาก็ภูมิใจทุกครั้ง เพราะผมเองก็ไม่คิดมาก่อนว่านักเรียนในระดับนี้จะสามารถสร้างเว็บไซต์ได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็นะ ด้วยเด็กสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยผม สมัยนี้เทคโนโลยีเยอะแยะมากมาย สื่อการสอนในอินเทอร์เน็ตเพียบ!!
ภารกิจครั้งนี้เป็นการกดดันอีกครั้งเพราะครั้งแรกมีครูพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ คร้้งที่ 2 ก็ได้สอนนักเรียนที่มีพื้นฐานมาบ้างแล้ว แต่เราต้องคิด วางแผนให้เด็กใหม่หมด ไม่มีใครช่วย!! และครั้งนี้เริ่มรู้แนวทางล่ะ เสร็จ!! แต่ก็ต้องถึงขั้นกุมขมับ เพราะอะไร?? ก็เพราะเด็กที่สอนมันช่างถาม และที่สำคัญมันไม่ทำอะไรเลยหลังจากเลิกเรียนมันอยู่แต่กับคอมพิวเตอร์ พื้นฐานเด็กชุดนี้เลยดีกว่าที่ผ่านมา
ก็เริ่มถอดวิชาจากหัว แล้วสวมให้เด็กสองคน ให้เดินตามรอย ตบหัวตบท้ายไม่ได้คิดนอกกรอบด้วยเพราะมีเกณฑ์การตัดสินคอยกำกับอยู่นั่นเอง ก็เลยวางแผนให้นักเรียนคู่นี้เข้าใจกระบวนการทำงานของเว็บไซต์อย่างลึกซึ้ง แล้วค่อยสอดแทรกเทคนิคที่เด็กไม่มีเข้าไป ทำกันแบบอยู่ 3 เดือนเต็มๆ จนวันแข่งไอ้เราก็ภาวนาให้เด็กของเราทำให้เสร็จทุกหน้า เพราะกรรมการจะตัดคะแนนจากการ error ลิงค์ไม่เจอของหน้าเว็บแต่ละหน้า ภาพไม่ขึ้นในหน้าเว็บ แค่นั้น นอกจากนั้นจะเป็นแต้มบวกเต็มๆ ก็อยู่ที่เด็ก 2 คนจะคุยกัน วางแผนกัน และให้ทำให้เต็มที่จนนาทีสุดท้าย กฎเหล็กของทุกรุ่นคือ “ห้ามลุกออกจากห้องจนกว่าเวลาจะหมด” เพราะอะไร? ก็เพื่อทบทวน ตรวจสอบรายละเอียดในเว็บนั้น หากจุดบกพร่องและแก้ไขให้ดีกว่าเดิมแค่นั้น
จนนาทีสุดท้ายเด็กทั้งสองเดินออกจากห้องแข่งขันมา ไอ้เรามันพวกเสือยิ้มยาก ก็เอาว่ะ เพื่อนักเรียนที่ทำตามคำสั่งเราทุกอย่าง (เพราะแอบดูตลอด) ก็เลยยิ้ม แล้วถามเป็นไง เสร็จไหม? เสร็จครู แต่โรงเรียนั้นสวย โรงเรียนนี้มีอันนั้น โรงเรียนนี้มีอันนี้ ก็เลยปลอบเด็กไปว่าไม่เป็นไร ดูไว้เป็นประสบการณ์ ทีนี้รอลุ้นแค่ผล จนกรรมการประกาศผลผ่านเว็บไซต์ ผลคือ ได้แค่ที่ 2 เหรียญเงิน
ปั้นหน้าๆๆ ไม่ให้เด็กรู้ว่าเราเสียใจ
ไม่เป็นไรนะ ปีหน้าว่ากันใหม่ (เพราะเด็กผู้ชายคนหลังอยู่ป. 5 ยังมีสิทธิแข่งได้อีก 1 ปี) จากนั้นก็หมายมั่นปั่นมือว่ามีเทคนิคอะไรก็คงต้องงัดใส่ให้หมด กลับมาก็จับฝึกกันไม่หยุด ซัมเมอร์ก็มา เปิดเทอมก็มา เพื่อให้เด็กมีความถนัดมากที่สุด แล้วการแข่งขันปีถัดมาก็เป็นไปตามคาด ที่ทีมของเราชนะเป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับภาค ที่เพชรบุรี รอบนี้ทุกคนคงจะหวังเหรียญทอง หรือเป็นตัวแทนไปแข่งขันต่อระดับประเทศ แต่สำหรับผมหวังแค่ให้นักเรียนทำชิ้นงานเสร็จ ไม่ติดปัญหา ด้วยไม่ให้โรงเรียนขายหน้า ไม่ให้จังหวัดขายหน้าที่กรรมการตัดสินให้เรามาแข่งขันต่อ แต่วันนั้นทั้งวันกดดัน คุมสติ กำชับเด็กไม่ลืมโค้ดนั้นนะ ไม่ลืมแบบนี้นะ พูดจน
“ครูผมไม่กลัวแล้ว ผมไม่หวังอะไรทั้งขอแค่เว็บไม่พังพอ”
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนี้แข่งขันจบเกมนี้ก็คงไม่เอาดีทางนี้ต่อแน่ คงไปเรียนเตรียมทหารเหมือนคนอื่น ไปติวเข้มเหมือนเพื่อนๆ 3 ผ่านมาก็มีอยู่วันนึงผมกำลังกลับบ้าน เด็กคนนี้ก็ทักแชทมา ครูขอเบอร์หน่อย ไอ้เราก็ให้ไป แล้วก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา
ครูผมได้เป็นตัวแทนไปแข่งออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับเขตด้วย!!
ไอ้เราก็เอ่อๆๆ ดีใจด้วยแล้วเป็นไง ยากไหม มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า เด็กคนนั้นก็ตอบว่าเปล่า ไม่มีไรครู แค่อยากโทรมาเล่าให้ฟัง ไอ้เราก็นึกในใจ เออมันยังเอาดีทางคอมพิวเตอร์ไปแข่งต่อในระดับที่สูงขึ้น สิ่งที่เอามาเล่านี้อาจจะไม่ได้น่าอ่านสำหรับใคร แต่เพียงแค่อยากมาบอกต่อว่า
ถ้าเราตั้งใจหรือจริงใจกับใครแล้วโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้ว สิ่งนั้นก็จะตอบกลับมาหาคุณไม่ช้าก็เร็ว
ให้ต้องให้หมด ให้เท่าที่เรามีอยู่โดยไม่มีกั๊ก